ปี 2567 ประเทศไทยมีปริมาณฝนทั้งประเทศ 1,545 มิลลิเมตร มากกว่าปกติ 46 มิลลิเมตร หรือประมาณร้อยละ 3 แม้ปริมาณฝนในภาพรวมทั้งประเทศจะมากกว่าค่าปกติ แต่กลับมีทั้งบริเวณที่ฝนตกน้อยกว่าปกติและฝนตกมากกว่าปกติกระจายตัวเป็นบริเวณกว้างในทุกภาคของประเทศ โดยมีฝนตกมากกว่าปกติเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ลงไปถึงชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมีบริเวณที่ฝนตกมากกว่าปกติเป็นหย่อมเล็ก ๆ ในทุกภาค ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคกลาง ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตอนกลางของภาคใต้มีฝนตกน้อยกว่าปกติเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง และมีบริเวณที่ฝนตกน้อยกว่าปกติเป็นหย่อมเล็ก ๆ ในทุกภาค จากการคำนวณค่าฝนในทุกพื้นที่ของแต่ละภาคพบว่าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนตกมากกว่าปกติ ส่วนภาคกลางและภาคใต้ทั้ง
ฝั่งตะวันตกและตะวันออกมีฝนตกน้อยกว่าปกติ โดยในปีนี้ จังหวัดบึงกาฬมีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติสูงสุดถึงร้อยละ 62.17 รองลงมาคือจังหวัดนครนายกและหนองคายที่มีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติร้อยละ 47.85 และ 37.80 ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติมากที่สุดถึงร้อยละ 28.39 รองลงมาคือจังหวัดกระบี่และสุรินทร์ที่มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 20.39 และ 17.88 ตามลำดับ
In 2024, Thailand’s annual rainfall was 1,545 millimeters, which was 46 millimeters or approximately 3% above normal. Although the overall rainfall across the country was higher than normal, both below-normal and above-normal rainfall were widely distributed across all regions. Widespread above-normal rainfall occurred in the upper North, the upper Northeast, and the lower South from Nakhon Si Thammarat Province down to the southern
border. Additionally, there were small patches of above-normal rainfall in all regions. In contrast, most areas in the Central, the central Northeast, and the central South faced widespread below-normal rainfall, with small patches of below-normal rainfall occurring throughout all regions. Calculations of rainfall across all regional areas showed the North, the Northeast, and the East experienced above-normal rainfall. In contrast, the Central and both the
western and eastern coasts of the South experienced below-normal rainfall. This year, Bueng Kan Province had the highest above-normal rainfall at 62.17%, followed by Nakhon Nayok and Nong Khai provinces with 47.85% and 37.80% above normal, respectively. In contrast, Surat Thani Province had the most below-normal rainfall at 28.39%, followed by Krabi and Surin provinces with 20.39% and 17.88% below normal, respectively.
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 มีเดือนที่ฝนตกน้อยกว่าปกติถึง 6 เดือน ได้แก่ มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน มิถุนายน ตุลาคม โดยเฉพาะช่วงต้นปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่มักมีฝนตกมากในพื้นที่ภาคใต้ แต่ในปี 2567 กลับมีฝนตกน้อยกว่าปกติต่อเนื่องยาวนานถึง 4 เดือน ส่งผลให้ปริมาณฝนทั้งปีของภาคใต้น้อยกว่าค่าปกติทั้งทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของภาค สำหรับอีก 6 เดือนมีฝน
ตกมากกว่าปกติ ประกอบด้วย พฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม โดยเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม และกันยายนอยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งปกติจะมีปริมาณฝนมากกว่าช่วงเดือนอื่น ส่วนเดือนมิถุนายนและตุลาคมแม้อยู่ในช่วงฤดูฝนเช่นกัน แต่มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ปริมาณฝนโดยรวมทั้งปีจึงยังคงมากกว่าค่าปกติ สำหรับปี 2567 นี้ เดือน
กันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกมากที่สุดถึง 283 มิลลิเมตร รองลงมาคือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่มีฝนตก 258 และ 249 มิลลิเมตร ตามลำดับ ส่วนเดือนที่มีฝนตกน้อยที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ ที่มีฝนตกเพียง 6 มิลลิเมตร รองลงมาคือเดือนมกราคมและเมษายนที่มีฝนตกเพียง 12 และ 20 มิลลิเมตร ตามลำดับ
However, in 2024, there were 6 months with below-normal monthly rainfall, namely January, February, March, April, June, and October. Particularly during the beginning of the year (January to April), which is typically a period of heavy rainfall in the South, the region, however, experienced below-normal rainfall for 4 consecutive months. As a result, the annual rainfall of the South was
less than normal across both the western and eastern coasts. For the remaining 6 months with above-normal rainfall, including May, July, August, September, November, and December, May through September are in the rainy season and always receive more rainfall than other months. Although June and October are also a part of the rainy season, they experienced slightly below-
normal rainfall this year. Consequently, the overall annual rainfall remained above normal. In 2024, September had the highest rainfall at 283 millimeters, followed by July and August with 258 and 249 millimeters, respectively. The month with the least rainfall was February with only 6 millimeters, followed by January and April with only 12 and 20 millimeters, respectively.
พายุเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในปี 2567 โดยในปีนี้มีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยเพียงลูกเดียว คือ พายุโซนร้อน “ซูลิก” (SOULIK) ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ในขณะที่ลดระดับลงเป็นพายุดีเปรสชัน จากนั้นได้สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง อิทธิพลของพายุ
ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2567 นอกจากนี้ยังมีพายุดีเปรสชัน 03W ที่เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ในขณะที่สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและบางพื้นที่ของภาคเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อีกทั้งยังมีพายุอีก 15 ลูกที่แม้จะไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่
ประเทศไทยโดยตรง แต่ได้เคลื่อนเข้ามาสลายตัวบริเวณประเทศเพื่อนบ้านหรือเคลื่อนตัวเข้ามายังบริเวณที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทย โดยเฉพาะพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง จนทำให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มอย่างรุนแรงบริเวณประเทศพม่าและจังหวัดเชียงรายของไทยในช่วงเดือนกันยายน 2567
Storms were one of the factors causing heavy rainfall in 2024. This year, only one storm moved into Thailand —Tropical Storm "SOULIK" which entered Thailand in Nakhon Phanom Province on 20 September 2024, while weakening into a depression. It subsequently decayed to a strong low-pressure cell covering the upper Northeast and
the lower North. The influence of the storm resulted in heavy to very heavy rainfall during 19-20 September 2024. Additionally, Depression 03W moved to cover the Northeast of Thailand on 16 July 2024 while dissipating into a low-pressure area. This also caused heavy to very heavy rainfall in most areas of the Northeast and some areas of
the North. Moreover, 15 other storms did not directly enter Thailand but dissipated over neighboring countries or moved into areas that affected Thailand’s weather. Notably, Typhoon "YAGI" caused widespread heavy rainfall, leading to severe flooding and landslides in Myanmar and Chiang Rai Province of Thailand in September 2024.
จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายครั้งในปี 2567 ดาวเทียมได้ตรวจพบพื้นที่น้ำท่วมบริเวณประเทศไทยประมาณ 6.22 ล้านไร่ กระจายตัวอยู่ในทุกภาคของประเทศ โดยมี
57 จังหวัด 454 อำเภอ 2,601 ตำบลที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ เหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นในเดือนมกราคมและช่วงเดือนกรกฎาคม จนถึงเดือนธันวาคม โดยเดือนตุลาคมมีพื้นที่
ถูกน้ำท่วมมากที่สุดประมาณ 4.13 ล้านไร่ รองลงมาคือเดือนกันยายน 2.71 ล้านไร่ และเดือนพฤศจิกายน 2.16 ล้านไร่
As a result of multiple flooding events in 2024, satellite monitoring detected approximately 6.22 million rai of flooded areas across Thailand, distributed in all regions. In total, 57
provinces, 454 districts, and 2,601 sub-districts were flooded. The flooding occurred in January and from July to December, with October experiencing the most flooded area
of approximately 4.13 million rai, followed by September with 2.71 million rai and November with 2.16 million rai.
เนื่องจากปี 2567 มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ทำให้เขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนรวมกันทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 47,223 ล้านลูกบาศก์เมตร มากเป็นอันดับที่ 4 รองจากปี 2565 2560 และ 2561 เมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม มีการระบายน้ำออกไปมากถึง 40,266 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากเป็น
อันดับที่ 3 รองจากปี 2561 และ 2565 ส่งผลให้ ณ วันสิ้นปี มีน้ำกักเก็บคงเหลือ 56,459 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 80 ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก โดยมากเป็นอันดับที่ 3 รองจากปี 2560 และ 2565 ซึ่งเป็นปริมาณน้ำใช้การได้จริง 32,921 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้มี 2 เขื่อนที่ยังคงเกิดสถานการณ์น้ำล้นเขื่อน ณ วันสิ้น
ปี คือ เขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ และเขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง ส่วนเขื่อนที่มีปริมาณน้ำเก็บกักคงเหลืออยู่ในเกณฑ์น้ำมากมี 12 แห่ง น้ำปานกลาง 15 แห่ง น้ำน้อย 5 แห่ง และมีเพียงเขื่อนลำตะคองเพียงเขื่อนเดียวที่มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลืออยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยวิกฤต
Due to increased rainfall in 2024, the total annual inflow of the 35 large dams across the country had increased to 47,223 million cubic meters (mcm), ranking as the fourth highest when compared with data from the past 10 years, after 2022, 2017, and 2018. However, water was released up to 40,266 mcm, which
was the third highest after 2018 and 2022. As a result, at the end of the year, the remaining stored water stood at 56,459 mcm, or 80% of the dam's capacity, which was at a high-water level, ranking third after 2017 and 2022, with usable water of 32,921 mcm. However, two dams still faced overflow conditions at the end
of the year: Mae Ngat Dam in Chiang Mai Province and the Kiew Kho Ma Dam in Lampang Province. There were 12 dams with high water storage levels, 15 dams with moderate levels, and 5 dams with low levels. Only Lam Takhong Dam had a critically low water storage level.
