สัดส่วนน้ำไหลลงเขื่อนรวมทั้งปีต่อความจุของเขื่อนขนาดใหญ่จำนวน 35 แห่ง คำนวณจากค่าเฉลี่ย 10 ปี (ปี 2558-2567) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 น้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่า 0.5 เท่าของความจุเขื่อน หรือปริมาณน้ำไหลลงไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนรัชชประภา (0.48) เขื่อนลำนางรอง (0.40) เขื่อนภูมิพล (0.38] เขื่อนศรีนครินทร์ [0.26]

กลุ่มที่ 2 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 1 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 17 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนห้วยหลวง [0.97] เขื่อนลำปาว [0.97] เขื่อนกระเสียว [0.88] เขื่อนประแสร์ [0.87] เขื่อนน้ำพุง [0.84] เขื่อนสิรินธร [0.79] เขื่อนแม่งัด [0.79] เขื่อนทับเสลา [0.78] เขื่อนน้ำอูน [0.76]

เขื่อนมูลบน [0.70] เขื่อนลำแซะ [0.69] เขื่อนลำตะคอง [0.66] เขื่อนบางพระ [0.65] เขื่อนแม่กวงอุดมธารา [0.60] เขื่อนคลองสียัด [0.59] เขื่อนวชิราลงกรณ [0.59] เขื่อนสิริกิติ์ [0.55]

กลุ่มที่ 3 น้ำไหลลงเขื่อนอยู่ระหว่าง 1-2 เท่าของความจุเขื่อน มีทั้งหมด 12 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนแม่มอก [1.71] เขื่อนกิ่วคอหมา [1.53] เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน [1.40] เขื่อนบางลาง [1.40] เขื่อนหนองปลาไหล [1.38] เขื่อนขุนด่านปราการชล [1.27] เขื่อนแก่งกระจาน [1.23] เขื่อนอุบลรัตน์ [1.17] เขื่อนนฤบดินทรจินดา [1.14] เขื่อนลำพระเพลิง [1.11] เขื่อนปราณบุรี [1.08] เขื่อนจุฬาภรณ์ [1.07]

กลุ่มที่ 4 น้ำไหลลงเขื่อนเกิน 2 เท่าขึ้นไป มีทั้งหมด 2 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนกิ่วลม (5.45) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (2.23)

แต่หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลในปี 2567 จะพบว่าปีนี้มีเขื่อนที่ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนไม่ถึงครึ่งของความจุเขื่อนอยู่ 5 แห่ง อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง คือ เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ ภาคกลางและภาคใต้อีกภาคละ 1 แห่ง ได้แก่ เขื่อนศรีนครินร์ จ.กาญจนบุรี และเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนเขื่อนที่มีน้ำไหลลงเขื่อนมากกว่าความจุเขื่อนเกิน 2 เท่า มีเพียง 3 แห่ง คือ เขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี