พายุฝนเข้าสกลนครอ่วม ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันหลายอำเภอ ถนนขาด-หมูจมน้ำ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง เตรียมพร้อมอพยพประชาชน - กรมอุตุฯ จับตาปริมาณฝนสะสมสูงสุดในไทย
ตรวจสอบสภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา จับตาใกล้ชิดปริมาณฝนสะสมสูงสุดในประเทศไทย พายุฝน เข้าสกลนครอ่วม "ฝนตกหนัก"อ่วม น้ำท่วมฉับพลันหลายอำเภอ ถนนขาด-หมูจมน้ำ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง เตรียมพร้อมอพยพประชาชน
วันนี้ 13 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์พายุฝนพัดถล่มจังหวัดสกลนครอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่เผชิญกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรม ถนน และทรัพย์สินของประชาชนในหลายอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอพรรณานิคม อำเภอส่องดาว อำเภอวาริชภูมิ อำเภอโพนนาแก้ว และอำเภอวานรนิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
- พรรณานิคม อ่วมสุด ฝนกว่า 150 มม. ซัดถนนขาด-ช่วยหมูจมน้ำ
อำเภอพรรณานิคมได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุดจากปริมาณฝนที่สูงถึง 150.1 มิลลิเมตร มวลน้ำจำนวนมากได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลบะฮี ตำบลพรรณา ตำบลนาหัวบ่อ และตำบลเชิงชุม ซึ่งอยู่ใกล้คลองน้ำ นอกจากนี้ น้ำยังได้ซัดถนนเพื่อการเกษตรในพื้นที่ตำบลไร่ขาดไป 1 เส้นทาง โดยเทศบาลตำบลไร่ได้เข้าตรวจสอบแล้ว
ที่น่าตกใจคือ น้ำได้ไหลเข้าท่วมคอกปศุสัตว์ (คอกหมู) ในพื้นที่ตำบลนาหัวบ่อ ทำให้หมู 30 ตัวเสี่ยงจมน้ำ ผู้ใหญ่บ้านและฝ่าย
ปกครองในพื้นที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือและขนย้ายหมูทั้งหมดไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้สำเร็จ อำเภอพรรณานิคมได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
- ส่องดาว-วาริชภูมิ เร่งรับมือ น้ำท่วมนาข้าว-ห้วยกุดแร้งขาด
ในอำเภอส่องดาว ปริมาณฝนวัดได้ 104.0 มิลลิเมตร แม้จะมีการรายงานน้ำท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านโพนศรี แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ลุ่มและมีระบบระบายน้ำที่ดีจากการอยู่ติดกับลำน้ำยาม
เช่นเดียวกับอำเภอวาริชภูมิ มีรายงานคันคูห้วยกุดแร้งขาดที่จุดก่อสร้างฝายของชลประทานจังหวัดสกลนคร บ้านดอนยาวใหญ่ ตำบลหนองลาด แต่ทางชลประทานได้เร่งซ่อมแซมจนระดับน้ำลดลงแล้ว
นอกจากนี้ น้ำในลำห้วยปลาหาง พื้นที่ตำบลปลาโหล ยังได้ล้นตลิ่งท่วมนาข้าวและพื้นที่ทางการเกษตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายเพิ่มเติม
- โพนนาแก้ว เร่งช่วยชาวบ้าน หลังคาบ้านพังจากพายุ
นายปิยะพงษ์ สมโคตร นายอำเภอโพนนาแก้ว พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน (รอการระบาย) บริเวณถนนบ้านกลางใหม่ หมู่ 10 ตำบลนาแก้ว
และตรวจสอบเหตุพายุฝนพัดหลังคาบ้านของนายอดุลย์ ตางามแสง ราษฎร หมู่ 4 ตำบลนาแก้ว เสียหายไป 1 หลัง โดยได้มอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้นและมอบหมายให้เทศบาลตำบลนาแก้วให้การช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
- วานรนิวาส อ่วมหนักสุด พื้นที่เกษตรจมน้ำกว่า 3,000 ไร่
อำเภอวานรนิวาสเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันที่ 12 ถึง 13 มิถุนายน 2568 (ข้อมูล ณ เวลา 10.00 น.) มีพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีน้ำท่วมขังรวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน รวมพื้นที่เกษตรกรรมที่ถูกน้ำท่วมกว่า 3,180 ไร่ โดยแบ่งเป็น
ตำบลเดื่อศรีคันไชย: 15 หมู่บ้าน ประมาณ 1,870 ไร่
ตำบลธาตุ: 2 หมู่บ้าน ประมาณ 850 ไร่
ตำบลศรีวิชัย: 3 หมู่บ้าน ประมาณ 90 ไร่
ตำบลขัวก่าย: 1 หมู่บ้าน ประมาณ 60 ไร่
ตำบลนาคำ: 1 หมู่บ้าน ประมาณ 265 ไร่
ตำบลกุดเรือคำ: 1 หมู่บ้าน ประมาณ 45 ไร่
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ คาดว่าปริมาณน้ำที่ท่วมขังจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
สกลนครเจอฝนหนักต่อเนื่อง กรมอุตุฯ เตือนจับตาใกล้ชิด
จากข้อมูลล่าสุดของ กรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2568 จังหวัดสกลนครมีปริมาณฝนสะสมสูง โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 วัดปริมาณฝนสูงสุด (ฝนหนักมาก) ได้ 104.0 มิลลิเมตร และในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 วัดได้สูงถึง 195.0 มิลลิเมตร
ทางจังหวัดสกลนครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ หากท่านพบเห็นหรือได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม สามารถแจ้งหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที
จากอิทธิพลของพายุ"หวู่ติบ" ที่ตกต่อเนื่องหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง หลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนครโดยเฉพาะในเขตตัวเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามสถานการณ์และลงพื้นที่ระดมเครื่องจักรกล เร่งระบายน้ำลงสู่หนองหาร ซึ่งยังสามารถรองรับมวลน้ำได้อีกมาก
(13 มิ.ย.68)จากอิทธิพลของพายุ "หวู่ติบ" ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 12 มิถุนายน และต่อเนื่องจนถึงสายของวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ซึ่งฝนที่ตกหนักหลายชั่วโมงนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน น้ำท่วมขังหลายจุดของจังหวัดสกลนคร โดยเฉพาะที่อำเภอพังโคน ซึ่งปริมาณน้ำฝน วัดได้ 195 มิลลิเมตร มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมปริมาณฝนสะสมทั้ง 18 อำเภอ วัดได้ 715 มิลลิเมตร
นอกจากนี้ในเขตเทศบาลนครสกลนคร ฝนที่ตกหนักหลายชั่วโมงทำให้เกิดน้ำท่วม
ฉับพลัน น้ำท่วมขังในถนนหลายสาย ปริมาณน้ำจำนวนมากที่ระบายไม่ทัน ทำให้น้ำท่วมถนนสัญจร เช่น ถนนเสรีไทย ถนนประชาอุทิศ ถนนนิตโย ถนนรัฐพัฒนา รวมถึงบริเวณสี่แยกบ้านธาตุ ตั้งแต่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 และโรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา น้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และ ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน
นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เรียกประชุมส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ ขณะที่ เทศบาลนครสกลนคร ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสกลนคร ระดมเครื่องจักรกล รวม 10 เครื่อง พร้อมด้วยกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 29 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 อส. และเทศบาลนคร
สกลนคร ร่วมกันเร่งสูบน้ำ บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ได้แก่ พื้นที่หนองสนม ห้วยทราย ห้วยโมง ระบายลงสู่หนองหาร ซึ่งขณะนี้หนองหาร มีปริมาณน้ำเก็บกัก 266.924 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำเก็บกักวันนี้ 200.331 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 75.05% ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก และหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ก็จะสามารถระบายน้ำได้จนเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ในพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดสกลนคร ยังมีน้ำท่วมขัง และน้ำจากบริเวณอำเภอรอบนอก เอ่อล้นเข้ามา ส่งผลให้การจราจรติดขัด ไม่สะดวกในการสัญจร ทั้งนี้เทศบาลนครสกลนคร ได้ให้บริการกระสอบทราย โดยประชาชนสามารถติดต่อ ขอรับได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครสกลนคร โทรศัพท์หมายเลข 042-711707 หรือจะร่วมเป็นจิตอาสากรอกทราย ใส่กระสอบเพื่อบริการให้กับประชาชนก็ได้เช่นกัน
จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “หวู่ติ๊บ” ที่พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดสกลนคร เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขังในหลายอำเภอ ที่ อำเภอวานรนิวาส ได้รับผลกระทบหนักที่สุด พื้นที่การเกษตรใน 6 ตำบล 23 หมู่บ้านถูกน้ำท่วม รวมกว่า 3,180 ไร่ ที่อำเภอพรรณานิคม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 150 มิลลิเมตร น้ำล้นคลองเข้าท่วมพื้นที่เกษตรใน 4 ตำบล ถนนเพื่อการเกษตรขาด 1 สายในตำบลไร่ และคอกหมูในตำบลนาหัวบ่อถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่สามารถขนย้ายหมูจำนวน 30 ตัวไปยังที่
ปลอดภัยได้ทัน ที่อำเภอโพนนาแก้ว น้ำท่วมถนนบ้านกลางใหม่ ม.10 ตำบลนาแก้ว และบ้านเรือนเสียหายจากลมพายุ 1 หลัง เจ้าหน้าที่มอบสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมเร่งฟื้นฟู
ขณะที่อำเภอวาริชภูมิ มีน้ำล้นตลิ่งจากลำห้วยปลาหางท่วมนาข้าวในตำบลปลาโหล และคันคูห้วยกุดแร้งที่บ้านดอนยาวใหญ่ขาด ชลประทานจังหวัดเร่งซ่อมแซมแล้วเสร็จ ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง
นอกจากนี้ ในพื้นที่ เขตเทศบาลนครสกลนคร ยังมีจุดน้ำท่วมขังหลายแห่ง โดย
เฉพาะบริเวณถนนสายหลักและชุมชนใกล้แหล่งน้ำ เจ้าหน้าที่เร่งเปิดทางระบายน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบ
ด้านนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เร่งให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงฝ่ายปกครองในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกเพิ่ม คาดว่าระดับน้ำจะลดลงกลับเข้าสู่ภาวะ
สกลนครอ่วม! ฝนถล่มหนัก น้ำท่วมฉับพลัน โรงเรียน-ชุมชนจมน้ำ อิทธิพลพายุหวู่ติบ แม้ไม่เข้าไทยตรงๆ แต่สร้างความเสียหาย
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาและตลอดทั้งวันนี้ทั่วทั้งจังหวัดสกลนคร เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ พื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และแม้ช่วงบ่ายฝนจะหยุดตกไป แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เช่น น้ำจากเขาภูพาน น้ำจากห้วยเดียว ห้วยทราย ห้วยโมง ได้ไหลมาสะสมตัวเมืองสกลนคร
ปรากฎว่าช่วงเวลา 15.00 น.เป็นต้นมา มวลน้ำจำนวนมากได้เอ่อเข้าท่วมโรงเรียนเมืองสกลนคร สนง.สพป สกลนคร เขต 1 โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา คุณครูช่วยกันพานักเรียนออกจากบริเวณโรงเรียนที่มีน้ำเอ่อเข้าท่วมโดยปลอดภัย และน้ำยังได้ท่วมผิวจราจร ถนนนิตโย ขาออก สกลนคร-อุดรธานี จนรถเล็กรถต่ำผ่านไม่ได้ จนท.ต้องปิดช่องทางจราจรเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่หนองสนม กลางเมืองสกลนคร ซึ่งเป็นจุดรับน้ำกลางเมืองน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนหนองสนม โครงการหมู่บ้านและยัง
ไหลเอ่อเข้าท่วมถนนรัฐพัฒนา ย่านเศรษฐกิจ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งตอนนี้ปริมาณน้ำยังทรงตัว โดยศูนย์ ปภ.เขต 7 และ เทศบาลนครสกลนคร ได้นำกำลังและเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หลายเครื่องเข้าไปติดตั้งและเร่งระบายน้ำลงสู่หนองหาร ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก ซึ่งอิทธิพลพายุหวู่ติบครั้งนี้แม้ไม่ได้เคลื่อนผ่านประเทศไทยโดยตรงแต่ได้สร้างผลกระทบต่อจังหวัดสกลนครพอสมควร