ปริมาณน้ำในเขื่อน
ที่มา : กรมชลประทาน / การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

จากเหตุการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคเหนือตั้งแต่ช่วงกลางเดือนไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ส่งผลทำให้เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่มีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มมากขึ้น โดยช่วงวันที่ 10-30 สิงหาคม 2567 เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลลงเขื่อนมากที่สุดถึง 2,089 ล้านลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือเขื่อนภูมิพล 770 ล้านลูกบาศก์เมตร และ

และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 226 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยก่อนเกิดเหตุการณ์เขื่อนทั้ง 8 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บรวมกัน 11,634 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 47% ของความจุเขื่อนซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยมีเขื่อนที่มีน้ำกักเก็บอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย 5 แห่ง น้ำปานกลาง 3 แห่ง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำให้ทั้ง 8 เขื่อนมีน้ำกักเก็บรวม

กันเพิ่มขึ้นเป็น 14,416 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 58% ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง โดยมีเขื่อนที่มีน้ำกักเก็บอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก 2 แห่ง น้ำปานกลาง 3 แห่ง น้ำน้อย 3 แห่ง โดยเฉพาะเขื่อนกิ่วคอหมาที่จากเดิมอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก รวมถึงเขื่อนสิริกิต์ที่มีน้ำเพิ่มขึ้นถึง 21%


กราฟแสดงปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสะสมและปริมาณน้ำระบายสะสมในช่วงวันที่ 10-31 สิงหาคม 2567





ตารางแสดงปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อน

หมายเหตุ : เกณฑ์ปริมาณน้ำกักเก็บ >100% = เกินความจุเก็บกัก , >80-100% = น้ำมาก , > 50-80% = น้ำปานกลาง , >30-50% = น้ำน้อย , <= 30% = น้ำน้อยวิกฤต