ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่างของไทย ประเทศมาเลเซีย รวมถึงบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียทั้งทางฝั่งทะเลจีนใต้และทางฝั่งทะเลอันดามัน โดยเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว

ในขณะเดียวกันมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของภาคตั้งแต่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลาจนถึงนราธิวาส

ทั้งนี้จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่มีฝนตกหนักมาก ตรวจวัดปริมาณฝนได้เกิน 90 มิลลิเมตรต่อวัน ประกอบด้วย นราธิวาส สงขลา ปัตตานี ยะลา พัทลุง ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง

From late November to early December 2023, the strong low-pressure cell covered the lower South of Thailand, Malaysia, and the coast of Malaysia on both the South China Sea and the Andaman Sea periodically. During the same period, the northeast monsoon that

prevailed over the Gulf of Thailand and the South was quite strong. These resulted in heavy to very heavy rain in several areas of the South, especially on the east side of the region from Chumphon, Surat Thani, Nakhon Si Thammarat, Phatthalung, Songkhla, Pattani, Yala,

to Narathiwat provinces. Provinces in the South facing very heavy rain with more than 90 millimeters per day consisted of Narathiwat, Songkhla, Pattani, Yala, Phatthalung, Chumphon, Nakhon Si Thammarat, Surat Thani, Krabi, and Ranong.

เหตุการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากได้ส่งผลทำให้แม่น้ำลำคลองหลายสายเกิดน้ำล้นตลิ่งและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ประกอบด้วย คลองหลังสวน คลองตะโก คลองสวี บริเวณจังหวัดชุมพร แม่น้ำตาปี บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี คลองชะอวด คลองวังเคียน

บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช คลองกระถิน คลองบางม่วง คลองลำปำ บริเวณจังหวัดพัทลุง คลองเทพา คลองอู่ตะเภา คลองระโนด คลองปากรอ บริเวณจังหวัดสงขลา คลองกาแลกูโบบริเวณจังหวัดปัตตานี แม่น้ำสายบุรี บริเวณจังหวัด

นราธิวาส คลองฉลุง บริเวณจังหวัดสตูล แม่น้ำตรัง บริเวณจังหวัดตรัง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นการท่วมเพียงระยะเวลาสั้น ที่สามารถกลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

The heavy to very heavy rain caused several rivers and canals to overflow their banks and flash floods, including Lang Suan Canal, Tako Canal, Sawi Canal in Chumphon Province; Tapi River in Surat Thani Province; Cha Uad Canal, Wang Kian

Canal in Nakhon Si Thammarat Province; Krathin Canal, Bang Muang Canal, Lampam Canal in Phatthalung Province; Thepha Canal, Utha Phao Canal, Ranod Canal; Pak Ro Canal in Songkhla Province; Kalae Kubo Canal in Pattani Province; Sai Buri River in

Narathiwat Province; Chalung Canal in Satun Province; and Trang River in Trang Province. However, most flood events were short-period floods that could return to normal quickly.

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานพื้นที่ประสบภัยช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายนถึง 6 ธันวาคม 2566 ระบุมีน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่

ยะลา นราธิวาส ตรัง สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร ปัตตานีและระนอง รวมทั้งสิ้น 67 อำเภอ 348 ตำบล 2,214 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 130,529 เรือน ณ วันที่รายงานยังคงมี

ครัวสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สงขลา นครศรีธรรมราชและพัทลุง รวมทั้งสิ้น 8 อำเภอ 55 ตำบล 334 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52,322 ครัวเรือน

On 6 December 2023, the Department of Disaster Prevention and Mitigation reported damaged areas from 25 November to 6 December 2023, indicating that there were flash floods in 10 provinces, namely Yala, Narathiwat,

Trang, Surat Thani, Songkhla, Nakhon Si Thammarat, Phatthalung, Chumphon, Pattani and Ranong. In total, 67 districts, 348 sub-districts, 2,214 villages with 130,529 households were affected. On the reporting date, there was still

flooding in 3 provinces, namely Songkhla, Nakhon Si Thammarat, and Phatthalung with a total of 8 districts, 55 sub-districts, 334 villages, and 52,322 households affected.

นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังส่งผลทำให้เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ที่มีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน 2 ช่วง คือช่วงวันที่ 22-25 ธันวาคม 2566 และช่วงวันที่ 1-6 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสะสมช่วงวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม

2566 มีทั้งสิ้น 2,286 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกไป 2,166 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำกักเก็บคงเหลือในเขื่อนเพียง 1,001 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 69% ของความจุเขื่อน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง ส่วนเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหากเทียบกับปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน

โดยปกติของเขื่อนรัชชประภา ทั้งนี้ช่วงวันที่ 20 พฤศจิกายนถึง 4 ธันวาคม 2566 มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสะสม 2,708 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกไป 1,876 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำคงเหลือในเขื่อน 4,438 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 79% ของความจุเขื่อน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง

Moreover, the heavy rain also caused large dams in the areas to have more water flowing into the dams, especially Banglang Dam in Yala Province which had a significant increase in inflow water in 2 periods: 22-25 November 2023, and 1-6 December 2023. The cumulative inflow water between 20 November and 4 December 2023 was 2,286

million cubic meters (mcm) with 2,166 mcm of drainage water. As a result, there was only 1,001 mcm of water remaining in the dam, accounting for 69% of the dam capacity which was a moderate water level. For Rajjaprabha Dam in Surat Thani Province, there was a slight increase in water flowing into the dam when compared to its

normal inflow water. Between 20 November and 4 December 2023, the cumulative inflow water was 2,708 mcm with 1,876 mcm of drainage water. As a result, there was only 4,438 mcm of water remaining in the dam, accounting for 79% of the dam capacity which was a moderate water level.