หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ในพื้นที่ จ. ภูเก็ต ทำให้ช่วงเช้ามืดวันนี้(23 ส.ค.67) เวลา 04.00 น.เกิดเหตุดินสไลด์ ทับบ้านเนินเขากะตะ หลังวัดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง
สถานีวิทยุ จส.100 สอบถาม คุณพลวัฒน์ จันทร์เพชร หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลกะรน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่ ซ.ปฎัก 4 ในช่วงที่มีฝนตก ระดับ2-3 เกิดเหตุดินสไลด์ลงมาทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความความเสียหาย และ มีชาวบ้านติดอยู่ ช่วยออกมาได้ 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็ก 1 คน และกำลังช่วยเหลืออีก ก่อนหน้านี้ ออกมาได้ 20 คน ให้ไปพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่วัดกะตะ จากนั้นก็มีดินสไลด์ จุดที่ 2 ห่างไป 100ม. จุดนี้ ผู้เสียชีวิต 1 ราย ไม่มีผู้บาดเจ็บ
ล่าสุด ตอนนี้ ฝนหยุดตกแล้ว เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ได้รับ
แจ้งว่า มีบ้านหลังหนึ่ง ที่ถูกโคลนท่วมเข้าไปครึ่งหลัง ทำให้มีคนสูญหายจำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เจ้าหน้าที่เทศบาล ประมาณ 30 คน เข้าไปช่วยเหลือ จุดเกิดเหตุเป็นบ้านที่อยู่รวมกันหลายหลัง ส่วนมากเป็นแรงงานต่างด้าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง ความคืบหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก ดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ว่าขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย ได้ขออพยพมาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมวัดกะรน จำนวน 25 คน
ส่วนการค้นหาช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่ดินถล่ม ได้บูรณาการทั้งกำลังเครื่องจักร และกำลังคน กำหนดจุดเป้าหมาย 4 จุด ที่คาดว่ามีคนติดอยู่ในพื้นที่ดินถล่ม
-จุดแรก 3 ราย (เมียนมา)
-จุดที่ 2 สองราย (เมียนมา)
-จุดที่ 3 หนึ่งราย คาดว่า เป็นคนไทย ชาวจังหวัดสกลนคร
-จุดที่ 4 สองราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
จากการระดมค้นหากันตั้งแต่ช่วงเช้า พบร่างผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาแล้ว 5 ราย ยังติดอยู่ในพื้นที่อีก 3 ราย เป็นชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คาดว่า สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ ได้ทั้งหมดก่อนค่ำวันนี้ ถ้าไม่มีฝนตกลงมา
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket Info Center,NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ,อส.กู้ภัยภูเก็ต,สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
อัปเดตสถานการณ์(รายงานครั้ง 11) วันที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 12.30 น. อำเภอเมืองภูเก็ตขอรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ถึงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2567 วัดปริมาณน้ำฝนได้ 200 มิลลิเมตรส่งผลให้เกิดเหตุดินโคลนถล่ม
สูญหายมีจำนวน 13 ราย สามารถทำการ
กู้ร่างขึ้นมาได้แล้ว 12 ราย ประกอบด้วย
1.ชาวรัสเซีย จำนวน 2 ราย (ชาย 1 และหญิง 1)
2.เป็นชาวไทย 2 ราย (หชญิงชาวสกลนคร 1 ราย และ หญิงชาวสุราษฯ 1 ราย)
3.ชาวเมียนมาร์ จำนวน 8 ราย (ชาย 4 ราย และหญิง 4 ราย )
รวมทั้งหมด 12 ราย (ชาย 5 ราย และหญิง 7 ราย)
คาดว่ายังมีผู้สูญหาย อีก 1 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาพร้อมกับ ทีมค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ K9 USAR THAILAND ยังคงทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Phuketandamannews
เปิดสาเหตุ ดินสไลด์ จ.ภูเก็ต คร่า 13 ชีวิต เร่งแจ้งเตือนชุมชนจุดเสี่ยง เฝ้าระวังความเสียหาย
จากกรณี เกิดดินสไลด์ ที่จ.ภูเก็ต มาทับบ้านเรือน และทำคนเสียชีวิตไปถึง 13 คน และทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมากนั้น
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม รายงานข่าวจากจังหวัดภูเก็ต แจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม (landslide) บริเวณซอยปฏัก 2 หมู่ 2 ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พิกัด 47N 423879E 864751N เกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 05.00 น. บริเวณที่เกิดเหตุเป็นชุมชน ตั้งอยู่บนเนินเขา ด้านหน้าเขานาคเกิด เป็นแผ่นดินถล่มชนิดเศษวัสดุธรณีไหล (debris flow) ประกอบด้วย ก้อนหินขนาดใหญ่ประมาณ 10×10 เมตร กรวด ทราย และ
ต้นไม้ ไหลลงมาพร้อมกับน้ำ ทับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน
สาเหตุการเกิดแผ่นดินถล่ม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพธรณีวิทยาเป็นหินแกรนิต (แกรนิตกะตะ อายุประมาณ 91 – 105 ล้านปีมาแล้ว) มีอัตราการผุพังสูงให้ชั้นดินทรายปนดินเหนียวที่ค่อนข้างหนาประมาณ 3 – 5 เมตร มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีและเคลื่อนตัวได้ง่าย และมีความลาดชันสูง ประกอบกับมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ถึงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2567 วัดปริมาณน้ำฝนได้ 200 มิลลิเมตร จึงเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่มดังกล่าว โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินถล่มระดับสูงถึงสูงมาก
หลังเกิดเหตุจังหวัดภูเก็ตได้ทำการค้นหาผู้สูญหาย พบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 ราย บาดเจ็บ 19 ราย โดยวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ได้ยุติการค้นหา เนื่องจากไม่มีการแจ้งผู้สูญหายเพิ่มเติม ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และบริเวณโดยรอบ
ในการนี้ กองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำแผนที่เสี่ยงภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก จังหวัดภูเก็ต (2567) เพื่อส่งมอบให้หน่วยงาน ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ อีกทั้งสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 ได้ให้ข้อมูลจุดเฝ้าระวังเหตุแผ่นดินถล่ม ที่สอดคล้องกับแผนที่แก่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไป
สำหรับสิ่งที่ดำเนินการได้เพื่อลดความเสียหายและเฝ้าระวังคือ จังหวัดภูเก็ตต้องแจ้งเตือนชุมชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่จุดเสี่ยงสูงที่กีดขวางร่องเขาและทางน้ำธรรมชาติในพื้นที่ ซึ่งแผนที่ของ กธส ที่ปรับปรุงล่าสุด ระบุไว้ให้แล้ว ให้ทราบและเฝ้าระวังหากเกิดฝนตกหนัก บ้านเรือนที่ประสบเหตุตั้งอยู่บนทางน้ำ และจุดหินถล่มเดิม จึง กีดขวางการไหลของน้ำ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
ฝนถล่มภูเก็ต น้ำท่วม ดินถล่มใส่กำแพง บ้านพัง 9 หลัง สถานการณ์ยังไม่น่าวางใจ
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม จากการเกิดฝนตกหนักตั้งแต่คืนวันที่ 27 สิงหาคม ถึงเช้าวันที่ 28 สิงหาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต อาทิ สามแยกท่าแครง เลี้ยวซ้ายจะไปโรงแรมคาทีน่า น้ำท่วมสูง รถผ่านไม่ได้ ปิดการจราจร รถมูลนิธิกุศลธรรมเปิดสัญญาณไฟ หน้าวัดฉลอง ถนนเจ้าฟ้าตะวันตกมีน้ำท่วมขังสูง ถนนสุรินทร์ซอย 4 ตำบลตลาดใหญ่ และในเขตอำเภอกะทู้ บริเวณทางลัดเส้นทางเกาะแก้ว-กะทู้ น้ำท่วมทางเป็นช่วงๆ
ส่วนอำเภอถลาง สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล แจ้งประชาสัมพันธ์ เส้นทางโคกโตนด-ลายัน ถนนบริเวณตรงโค้งขุมน้ำเลควูดแตกร้าว และมีการยุบตัว ขณะนี้ได้มีป้ายเตือน วางกรวย และแท่งแบริเออร์เพื่อป้องกันเหตุ โดยได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
นอกจากนี้ กำแพงหล่นทับบ้านเลขที่ 29 ซอยประยูร 2/1 ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ความเสียหายกำแพงพังยาวประมาณ 2 เมตร ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ดินสไลด์หมู่บ้านเทพบุรี รัษฎานุสรณ์ เป็นโครงการทาวน์โฮม/ทาวน์เฮาส์ อยู่ที่ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เกิดเหตุดินสไลด์ โดนกำแพงบ้านพักอาศัย เสียหาย 9 หลัง ไม่มีผู้ได้
รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้ทำการเคลื่อนย้ายแล้วและเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังจุดปลอดภัย
ทางด้าน เทศบาลนครภูเก็ต แจ้งปริมาณน้ำในคลองบางใหญ่ วันนี้ เวลา 06.55 น. ปริมาณน้ำในคลองบางใหญ่เพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนบริเวณริมคลอง ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ประจำประตูน้ำและสถานีสูบน้ำ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในคลองบางใหญ่อย่างใกล้ชิดในระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2567
ขอรับกระสอบทรายได้ตามจุดต่างๆ ดังนี้
1. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ต สามกอง ซอยพะเนียง
2. ศูนย์จักรกล เทศบาลนครภูเก็ต
3. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ต ถนนกระ
4. โรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์
#แจ้งเหตุสาธารณภัยในเขตเทศบาลนครภูเก็ต (ต.ตลาดเหนือ, ต.ตลาดใหญ่) ได้ที่ : งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ต โทร 076-211111 และโทร 199
สายด่วนเทศบาลนครภูเก็ต โทร 1132
ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำได้ที่ : https://lin.ee/D6gXeyJ และ https://www.facebook.com/prpkcity1
ทางด้าน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง คลื่นลมแรง และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในช่วงวันที่ 26-29 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สรุปผลการติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดังต่อไปนี้
1.สภาพอากาศ
– มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และวัดปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชม. ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลา 04.00 น. สถานีภูเก็ต (ศูนย์ฯ) จ.ภูเก็ต วัดปริมาณน้ำฝน 131.40 มม. สถานีบ้านบางหวาน 111.50 มม. สถานีบ้านป่าคลอก 91.50 มม. สถานีบ้านสาคู 86.50 มม. สถานีอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ 84.80 มม.
2. การคาดการณ์สถานการณ์ฝน
2.1 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
2.2 ให้พื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม และแจ้งเตือนประชาชนขนของขึ้นที่สูง
3. สถานการณ์คลื่นลมแรง
3.1 ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
3.2 พื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ให้กำชับสถานประกอบการ โรงแรมในพื้นที่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังและห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีลมแรงหรือมีการแสดงธงสัญลักษณ์คำเตือนในการห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด
3.3 กรณีมีแนวโน้มเกิดคลื่นลมแรง คลื่นซัดชายฝั่งดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยในการนำเรือเข้าที่กำบังและห้ามการเดินเรือในช่วงที่มีคลื่นลมแรง เฝ้าระวัง ประชาชนพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากกรณีคลื่นซัดชายฝั่ง โดยการงดกิจกรรมทางทะเล และออกห่างจากพื้นที่ชายฝั่งทะเล