กาญจนบุรีฝนตกต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลากข้ามถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ด้านจังหวัดแจ้งพื้นที่เฝ้าระวัง อ.เมือง อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี อ.ไทรโยค อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ด่านมะขามเตี้ย 24-31 ก.ค.นี้
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ค. 2567) มีเหตุน้ำป่าไหลหลากข้ามถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ช่วงบริเวณหน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 ม.3 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทำให้ผู้สัญจรมุ่งหน้าขึ้น อ.สังขละบุรี
ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรีได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567 โดยมีพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอด่านมะขามเตี้ย
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางแจ้งว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น
ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567 โดยจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะอำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอ
ศรีสวัสดิ์ อำเภอไทรโยค และอำเภอด่านมะขามเตี้ย
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการป้องกัน รับมือ ลดผลกระทบ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูล สภาวะอากาศ ปริมาณฝน และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก หรือบริเวณฝนสะสม
ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะ ถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง
กาญจน์อ่วม ฝนตก 3 วันติด ท่วมหลายพื้นที่ตามลำน้ำแควน้อย จนท.เร่งเข้าช่วยเหลือ เร่งเคลียร์สิ่งกีดขวางพ้นตอม่อสะพานมอญ
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ไทรโยค และ อ.ด่านมะขามเตี้ย รวม 6 อำเภอ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567
โดยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ (กอปภ.อ.) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล (กอปภ.ทม./ทต.) และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า กรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ตามเชิงเขาและริมแม่น้ำแควน้อย แควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง
ที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน น้ำป่าได้เอ่อล้นไหลหลากออกมาจากลำห้วยอู่ล่อง เข้าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 323 สายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บริเวณด้านหน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.11) ทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้
ซึ่งนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายก
เทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ปัจจุบันน้ำป่ายังคงไหลหลากเข้าท่วมถนนสายดังกล่าวเช่นเดิมเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องขับด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะรถขนาดเล็ก เพราะระดับน้ำที่ไหลหลากสูงถึง 60-70 เซนติเมตร
ขณะเดียวกันฝนที่ตกหนักในพื้นที่อำเภอไทรโยค ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำในแม่น้ำแควน้อยได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณท่าเรือปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายอำเภอไทรโยค จึงได้ร่วมกับนายกิรติ จิณแพทย์ ปลัดอาวุโสอำเภอไทรโยค นายโชคชัย อู่โภคิน ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นางสาวอณัฎญ์ชา ทับพรหม ปลัดป้องกันอำเภอไทรโยค สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอไทรโยคที่ 7 รวมทั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลน้ำตกไทรโยคน้อย และจิตอาสาพระราชทาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำแม่น้ำแควน้อยเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและพูดคุยให้กำลังใจโดยหากเหตุการณ์สิ้นสุดลงจะได้ร่วมกันลงพื้นที่ในการสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบทางราชการต่อไป
โดย ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นจึงได้ขอความร่วมมือไปยังเขื่อนวัชราลงกรณ ให้งดการระบายน้ำชั่วคราว และขอความร่วมมือไปยังเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง ให้ยกบานประตูเขื่อนเร่งการผันน้ำเพื่อบรรเทาสถานการณ์อุทกภัย ให้กับพี่น้องประชาชนอำเภอทองผาภูมิและอำเภอไทรโยค พร้อม
ทั้งสั่งการให้นายอำเภอทองผาภูมิและนายอำเภอไทรโยค ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเร่งรัดการสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีปริมาณที่สูงขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำให้ป้องกันทรัพย์สินด้วยการเก็บเอาไว้ในที่สูง ส่วนชาวแพขอให้ผูกเอาไว้ให้แข็งแรงเพื่อป้องกันน้ำพัดพาไป หากไม่ดำเนินการอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้
ขณะที่ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 อ.สังขละบุรี นำเจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 ร่วมกับผู้ประกอบการชาวเรือและประชาชนในพื้นที่ กำจัดเศษไม้ และขยะที่ลอยมากีดขวางติดใต้ตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ และบริเวณแพลูกบวบ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.สังขละบุรี เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้สะพานชำรุดหรือเสียหาย และเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวหรือราษฎรที่ใช้เป็นเส้นทางเดินสัญจรไปมาได้ และที่สำคัญเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยสะพานพังถล่มเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ซึ่งอีก 2 วันก็จะครบรอบ 11 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อุทยานแห่งชาติหลายแห่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ได้ประกาศแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวงดลงเล่นน้ำเป็นการชั่วคราว เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาที่น้ำตก อาทิ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกผาตาด น้ำตกเกริงกาเวีย น้ำตกไทรโยคน้อย แต่สามารถเดินชมน้ำตกได้ปกติ
เผยน้ำท่วม 3 อำเภอกาญจน์!'ทองผาภุมิ-สังขละบุรี'น้ำเริ่มลด'ไทรโยค'ยังอ่วม!
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 ก.ค.67 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงสถานการร์น้ำท่วมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สรุปรายงานการเกิดเหตุน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี และ อ.ไทรโยค ดังนี้ สถานการณ์สาธารณภัย เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินสไลด์ ซึ่งเขื่อนวชิราลงกรณ ลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม.ลงเหลือ 1.33 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับสถานที่เกิดเหตุและความเสียหาย อ.ทองผาภูมิ น้ำท่วมถนนบริเวณหน้า นพค.11 ความสูงของน้ำประมาณ 30 ซม.
รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ที่ อ.สังขละบุรี น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร หมู่ 1 ต.ไล่โว่ ประมาณ 40 ไร่ (นาข้าว) และได้รับรายงานว่ามีดินสไลด์บนถนนสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) ช่วงทางโค้ง ก่อนถึงน้ำตกเกริงกะเวีย เมื่อเวลาประมาณ 10.40 น.ในพื้นที่ตำบลปรังเผล บ้านวังขยาย มีน้ำท่วมประมาณ 100 หลังคาเรือน สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วน อ.ไทรโยค น้ำท่วมถนนบริเวณท่าน้ำบ้านปากแซง ต.ท่าเสา ได้รับผลกระทบประมาณ 5 หลังคาเรือน และนักท่องเที่ยว 6 คน ติดอยู่บนแพท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่ง
การดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือ สำนักงาน ปภ.หน่วยทหารในพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อปท. กฟภ. จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายและให้การ
ช่วยเหลือมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนแพเรียบร้อยแล้ว
แนวโน้มสถานการณ์ อ.ทองผาภูมิ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง อ.สังขละบุรี ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และ อ.ไทรโยค ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
ศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์จังหวัดกาญจนบุรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยการดำเนินการ แจ้งเตือนและเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป
จากที่ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ทองผาภูมิ และไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก และมีน้ำป่าไหลบ่าจากที่สูงลงสู่แม่น้ำแควน้อย มีปริมาณน้ำจำนวนมาก ด้านชลประทานแจ้งการระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลองในปริมาณมากกว่า 800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 1-2 เมตร ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงถ้ำกระแซ หมู่ 1 ต.วังโพธิ์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมโรงแรม รีสอร์ท อาคารที่พักจมน้ำ แพพักลอยเคว้งคว้างกลางแม่น้ำแควน้อย ถ้ำกระแซ ทางรถไฟ มีพืชผลการเกษตรเสียหายจำนวนหลายพันไร่
ส่วนรีสอร์ท โรงแรมที่พักเสียหายหนัก ต้องยกเลิกการให้บริการที่พักแก่นักท่องเที่ยวที่สั่งจองที่พักล่วงหน้า
สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำล่าสุดวันนี้ 29 ก.ค.67 น้ำจากแม่น้ำแควน้อยล้นตลิ่งเข้าท่วมรีสอร์ทบ้านพักในพื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ระดับน้ำยังคงที่
"กาญจนบุรี" ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินพื้นที่ประสบสาธารณภัย 5 อำเภอ ตรวจสอบพบผู้ประกอบการกระชังปลา ริมแม่น้ำแควน้อย เสียหายรวมกันมูลค่าสูงถึงกว่า 2 ร้อยล้านบาท
เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้ 30 ก.ค.67 นายอธิวรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (อุทกภัย) จังหวัดกาญจนบุรี โดย ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์รวมถึงพื้นที่และทรัพย์สินทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอไทรโยค อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอด่านมะขามเตี้ย ระหว่างเมื่อวันที่ 25-30 กรกฎาคม 2567 สรุปรายละเอียดได้ดังนี้
เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินสไลด์ สาเหตุเกิดจากร่องมรสุม และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคเหนือ เขื่อนวชิราลงกรณลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ
อำเภอสังขละบุรี ตำบลไลโว่ หมู่ที่ 1 น้ำท่วมพื้นที่นาข้าว ประมาณ 40 ไร่ ตำบลปรังเผล บ้านวังขยาย น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ได้รับผลกระทบจำนวน 100 หลังคาเรือน และมีดินสไลด์บนถนนสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) ช่วงทางโค้ง ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวีย ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ
อำเภอไทรโยค ตำบลท่าเสา หมู่ที่ 3 น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณท่าน้ำบ้านปากแชง ระดับน้ำสูง 4 เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอไทรโยค เข้าทำการตัดกระแสไฟฟ้า มีผู้ประสบอุทกภัยรวม 17 หลังคาเรือน และทำการอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์อพยพวัดน้ำตก ตำบลท่าเสาเป็นการชั่วคราว สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดตั้งโรงครัวโดยใช้รถประกอบอาหาร ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ
อำเภอเมืองกาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีมวลน้ำจากทางอำเภอไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ ไหลลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์ในพื้นพื้นที่ตำบลบ้านเก่า ระดับน้ำเพิ่มขึ้น บริเวณหมู่ที่ 1, 3, 8, 9 และ 13 น้ำไหลเข้าท่วมสถานประกอบการโรงแรมรีสอร์ต ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่ม ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ตำบลหนองหญ้า หมู่ที่ 1-6, 8 และ 9 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 50 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 46,440,000 บาท ตำบลเกาะสำโรง หมู่ที่ 2, 3, 5, 7 และ 9 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 43 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 94,064,000 บาท ตำบลวังเย็น หมู่ที่ 1, 2, 4 และ 7 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 28 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 83,252,200 บาท
อำเภอด่านมะขามเตี้ย เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบในพื้นที่ตำบลจรเข้เผือก หมู่ที่ 1-3 จำนวน 11 ราย และตำบลกลอนโด หมู่ที่ 10 จำนวน 1 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมด ประมาณ 11,860,000 บาท ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ผู้ประกอบการกระชังปลาได้รับผลกระทบ 133 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกัน ประมาณ 235,616,200 บาท
อำเภอศรีสวัสดิ์ ตำบลนาสวน มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีต้นไม้ล้ม เศษหินและเศษดินสไลด์กีดขวางการจราจร หมวดการทางศรีสวัสดิ์ได้นำเครื่องจักรปรับพื้นที่ ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ ตำบลแม่กระบุง บ้านปากเหมือง (ห้วยแม่ขมิ้น) ถนนภายในหมู่บ้านได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
ด้านการดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดย ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี นายอำเภอศรีสวัสดิ์ หน่วยทหารในพื้นที่ แขวงทางหลวงกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้า
ส่วนภูมิภาคกาญจนบุรี จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขนย้ายสิ่งของไปยังศูนย์อพยพ สำรวจความเสียหาย และมอบถุงยังชีพ จัดตั้งโรงครัวบริเวณวัดน้ำตก ตำบลท่าเสาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตัดต้นไม้และดำเนินการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางถนน เพื่อให้การสัญจรมีความปลอดภัย
ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย รวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี และอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยในแต่ละอำเภอ จะเร่งรัดสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร็วต่อไป
นอกจากนี้ เพื่อความไม่ประมาท กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือ ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และจัดตั้งศูนย์อพยพและโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยงผู้อพยพ ภายในบริเวณวัดน้ำตก ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมงและคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกระชังปลาที่ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์มวลน้ำเหนือในแม่น้ำแควน้อยไหลบ่า สู่พื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยมี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมงจังหวัดกาญจนบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้อนรับและนำพาตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี มาช่วยเหลือตักปลาที่ตายขึ้นจากกระชังปลา บริเวณตำบลเกาะสำโรง และตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม